อะโฟรไดทิเทพีแห่งความงาม
เมื่่อโลกใบนี้ขาดความงามไปคงดูไร้ซึ่งชีวิตชีวา ยิ่งขาดหญิงงามแล้วไซร้ใจของหนุ่มๆเสือสิงห์กระทิงป่าคงห่อเหี่ยวไปตามๆกัน แต่เมื่อเทพีพระองค์นี้ย่างก้่า่วเยียบขึ้นบนโลก ความงดงามก็บังเกิดขึ้น ทำให้โลกมีชีวิตชีวา เหมือนดั่งอัญมณีที่เลอค่าประดับประดาแต้มสีสันให้โลกา สมแล้วที่เป็นเทพีแห่งความงาม...
เมื่อกล่าวถึงเทพีผู้โฉมงามและเป็นที่ล่ำลือมากที่สุดในตำนานเทพเจ้าคงหนีไม่พ้น เทพีอะโฟรไดทิ พระองค์นี้ ซึ่งได้ขนานนามว่า เทพีแห่งความงาม พระองค์ทรงเป็นพระธิดาในเทพยูเรนัส ซึ่งเกิดจากหยดเลือดที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกเทพโครนัสทำร้าย ระหว่างเหาะหนีขึ้นฟ้า เลือดนั้นก็หยดลงบนทะเลและบ่งตนกลายเป็นเทพธิดาและเจริญวัยเป็นเทพีผู้งดงาม และเต็มด้วยกิเลสและไฟราคี ก็คงเพราะเกิดจากเลือดตรงอวัยวะเพศของเทพยูเรนัสจึงทำให้พระเทพีมักมากเช่นที่ปรากฏในตำนานมากมาย นอนกับคนโน่น มีลูกกับคนนี้ บางตำนานว่าเป็นพระธิดาในเทพซีอุสกับเทพีดิโอนี และบางตำนานว่าพระเทพีเิกิดจากฟองละอองในทะเล มันเป็นอย่างนี้นะ คือเทพีซีอุสมีความสัมพันธ์กับเทพีดิโอนีจนพระเทพีตั้งครรภ์ เทพซีอุสก็กลัวแสนกลัวว่าเทพีเฮร่าจะตามมาราวีเทพีดีโอนี จึงนำเทพีไปฝากไว้กับเทพโพไซดอนใต้ทะเล เรื่องมันก็อีว่า พอเทพีให้กำเนิดพระบุตรแล้ว กลับกลายเป็นฟองละอองลอยขึ้นไปบนผิวน้ำและรวมตัวกันเป็นร่างเทพีผู้งดงามไง...
บางเขาว่าเทพีอะโฟรไดทิมิใช่เทพเจ้ากรีกโดยแท้ แต่เป็นเทพเจ้าแห่งชนชาติกลุ่มอพยพเข้ามาอาศัยในประเทศกรีซ คือ ชนชาติฟีนีเซีย แต่เขายังว่าพระเทพีนั้นเป็นพระองค์เดียวกับ เทพีอีชตาร์ ซึ่งเป็นที่เคารพของชาวอัีสสิเรียกับบาบิโลเนีย และ เป็นพระองค์เดียวกับ เทพีแอสตาร์เต ของชาวไซโรฟีนิเซียน อีกด้วย ซึ่งพระองค์อยู่มานานเกิดจะกำเนิดอารยธรรมกรีก-โรมันเสียอีก เท่ากับว่าพระองค์เป็นเทพเจ้าที่มาจากอารยธรรมขึ้นที่แทรกเข้ามาในชาวกรีก
เทพีอีชตาร์ เทพีแอสตาร์เต
ตำนานกำเนิดเทพีอะโฟรไดทิว่า พระเทพีทรงอุบัติขึ้นที่ทะเลแถวเกาะไซเธอรา
และถูกคลื่นและลมพัดไปยังเกาะไซปรัส
ซึ่งต่อมาเกาัะทั้งสองนี้จึงกลายเป็นเกาะศักดิ์สิทธิ์และเป็นที่เคารพของชาวกรีก
เพราะเป็นสถานที่ประสูติของเทพเจ้านั่นเอง
เขาว่าพอพระเทพีถูกลมและคลื่นพัดไปติดเกาะไซปรัส ด้วยรูปร่างที่โป๊เปลือย เทพีแห่งฤดูกาลทั้ง3
คือ กลุ่มเทพีซีซั่นซึ่งเป็นผู้พิทักษ์ประตูสู่โอลิมปัสพบเข้า
ก็เกิดความสงสารจึงนำอาภรณ์์มอบให้เทพีและพาขึ้นสู่โอลิมปัส
พระเทพีเป็นที่ตะลึงแห่งเหล่าทวยเทพ
รวมถึงเทพซีอุสที่พอใจกับความงามของพระธิดาเป็นอันมาก
บางตำนานก็ว่าพระองค์ไม่ทราบว่าพระเทพีเป็นพระธิดาของพระองค์
จึงหมายจะได้พระเทพีเป็นชายา
แต่ด้วยความหยิ่งผยองในพระเทพีที่ไม่ยอมรับรักจากเทพซีอุส
พระองค์จึงกลั่นแกล้งพระเทพีโดยยกให้เป็นพระชายาของพระโอรสคือ
เทพฮิฟีสทัสผู้อัปลักษณ์และพิการด้วย น่าสงสารจริงๆเลย...
เทพฮีฟีสทัสทรงยินดีที่ได้พระชายาที่งดงามกว่าพระเทพีองค์ใด
ซึ่งก่อนหน้านั้นพระองค์ทรงอกหักจากเทพีอธีน่ามา
ซึ่งพระเทพีปฏิเสธความรักจากเทพฮีฟีสทัสนั้นเอง
เทพฮีฟีสทัสทรงทำสายรัดเอวให้แก่พระชายาที่รักเส้นหนึ่ง
และสวยงามมากทำจากทองคำและมีลวดลายเป็นเกรียวสวยงาม ถึงเทพฮีฟีสทัสจะรักพระชายามากเพียงใด
แต่พระองค์กลับอยู่แต่กับที่ทำงานในห้องหล่อห้องตีเหล็กของพระองค์
ทำให้พระชายาต้องอยู่อย่างโดดในวิมานเพราะถึงพระชายาจึงตามไปอยู่ในที่ทำงานมิควรอยู่
จึงทำให้พระชายามีเวลาคิดนอกใจสวมเขาให้เทพฮีฟีสทัส โดยเป็นชู้กับเทพเจ้ามากมาย
แต่ที่รู้จักกันมากคือ เทพแอรีสเทพเจ้าแห่งสงครามกับเทพเฮอร์เมส
เทพเจ้าแห่งการสื่อสารนั่นเอง อย่างที่ควรกล่าวไปแล้วในตอน ฮีฟีสทัส
เทพเจ้าแห่งการช่าง ที่ว่าพระองค์จับได้ว่าพระชายามีชู้
โดยพระองค์นำแหทองคำไปล่ามไว้และนำพระชายาและเทพแอรีสผู้เป็นชู้ไปประจาญต่อหน้าเหล่าทวยเทพ
พระชายายังมีพระโอรสกับเทพแอรีส คือ เทพบุตรอีรอส นั่นเอง
เทพฮีฟีสทัสบางตำนานว่าถึงจะทราบว่าเป็นลูกที่เกิดจากเทพแอรีสแต่ก็รักเหมือนลูกของตน
บางตำนานว่าพระองค์ยังคงถูกพระเทพีสวมเขาโดยให้พระองค์เชื่อว่าเทพบุตรอีรอสเป็นพระโอรสของพระองค์
เทพฮีฟีสทัสรักเทพบุตรอีรอสมากถึงกับสร้างธนูทองคำเล็กๆให้
และกลายมาเป็นอาวุธคู่ใจของกามเทพพระองค์นี้
แต่พระเทพียังคงมีความสัมพันธ์และรักในเทพแอรีสจึงมีพระโอรส พระธิดาต่อมาคือ
เทพแอนติรอส และ เทพีเฮอร์ไมโอนี ตามตำนานว่าเทพอีรอสไม่ยอมโตเสียที
เทพีอะโฟรไดทิได้ไปขอคำแนะนำจากเทพีเทมิส
ซึ่้งพระเทพีว่าเทพีอะโฟรไดทิควรให้กำเนิดพระบุตรอีกพระองค์แล้วเทพอีรอสจะโตเอง
ก็เป็นจริงเมื่อเทพีอะโฟรไดทิให้กำเนิดเทพแอนติรอสแล้วผลปรากฏว่าเทพอีรอสกลับกลายเป็นเทพบุตรสุดหล่อแห่งสรวงสวรรค์
และทำหน้าที่แผลงศรให้ความรักแก่สรรพสิ่งบนโลก
เทพีอะโฟรไดทิเป็นเทพีที่ฉาวที่สุดในโอลิมปัสและตำนานเทพเจ้า
พระองค์มีความสัมพันธ์กับเทพเจ้าและมนุษย์ เช่น มีความสัมพันธ์กับเทพแอรีส
เทพเจ้าแห่้งสงคราม และ เทพเฮอร์เมส เทพเจ้าแห่งการสื่อสารจนมีพระโอรสด้วยกัน คือ
เฮอร์มาโฟรดิทัส ซึ่งต่อมาก็กลายเป็นกระเทยคนแรกแห่งกรีก...!!!
เฮอร์มาโฟรดิทัส
แล้วพระเทพียังมีความสัมผัสกับมนุษย์เดินดินอย่างเจ้าชาย นามว่า
"แอนคิซีส" ซึ่งเป็นเจ้าชายโทรยันพระองค์หนึ่ง และมีพระโอรสด้วยกัน
นามว่า "เอนิแอส" ซึ่งต่อมากลายเป็นต้นตระกูลของชาวโรมัน
ถึงเทพีอะโฟรไดทิจะได้ชื่อว่าเป็นเทพีแห่งความงาม
และยังมีตำแหน่งเทพีแห่งความรักซึ่งภายหลังยกหน้าที่มอบความรักแก่มวลสรรพสัตว์ให้แก่พระโอรสสุดที่รัก
คือ เทพอีรอส ไปก็ตาม ดูจากตำนานและเรื่องเล่าที่พระเทพีมักจะได้ชัยในสนามรักเสมอ
แต่พระองค์ก็ีความผิดหวังและความทุกข์อันพามาซึ่งเพราะความรักเช่นกัน คือ
พระเทพีทรงหลงใหลในตัวนายพรานหนุ่มรูปงาม ซึ่งจัดได้ว่าหล่อเหลาในขณะนั้น นามว่า
"อโดนิ"
พระเทพีพบเขากำลังล่าสัตว์
พระเทพีหลงในรูปลักษณ์และความหล่อเหลาอันคมคลายของเขาเสียเหลือเกิน
ถึงกับเหาะและเดินตามอะโดนิ ถึงพระเทพีจะเป็นฝ่ายที่รักเขาข้างเดียวก็ตาม
พระเทพีถึงจะร่วมรักกับอะโดนิ แต่ขอเพียงติดตามและอยู่ใกล้ๆก็พอ
อะโดนิก็พยายามปฏิเสธเสมอ แต่ดูแล้วพระเทพีไม่ยอมท่าเดียว
พระเทพีจำต้องจากอะโดนิเพราะกลัีวว่าจะเป็นขี้ปากชาวเทพเพราะหายไปนาน
จึงกล่าวบอกอะโดนิเป็นการเตือนด้วยความหวังดีจากใจว่า
"ท่านต้องระวังภัยจากสัตว์ใหญ่นะ..."
จากนั้นพระเทพีก็ลาลับกลับสู่โอลิมปัส ทางอะโดนิก็ไม่สนใจยังคงตามล่าสัตว์อยู่จนพบกับหมูป่ายักษ์ตัวหนึ่งมันตามขริดอะโดนิจนถึงความตาย เขาว่าหมูป่าตัวนี้คือ เทพแอรีสจำแลงมาสังหารอะโดนิเพราะความหึงหวงพระเทพีนั่นเอง อะโดนิร้องด้วยความเจ็บปวด
"ท่านต้องระวังภัยจากสัตว์ใหญ่นะ..."
จากนั้นพระเทพีก็ลาลับกลับสู่โอลิมปัส ทางอะโดนิก็ไม่สนใจยังคงตามล่าสัตว์อยู่จนพบกับหมูป่ายักษ์ตัวหนึ่งมันตามขริดอะโดนิจนถึงความตาย เขาว่าหมูป่าตัวนี้คือ เทพแอรีสจำแลงมาสังหารอะโดนิเพราะความหึงหวงพระเทพีนั่นเอง อะโดนิร้องด้วยความเจ็บปวด
พระเทพีได้ยินเข้าถึงกับใจเต้นสั่น
พระองค์ทราบแล้วว่าอะโดนิผู้เป็นที่รักถึงฆาต
พระองค์จึงลงมาจากโอลิมปัสเข้าหาร่างอะโดนิที่กำลังจะหมดลมหายใจ
อะโดนิสิ้นใจแล้วบนตักของพระเทพี พระเทพีทรงกรรแสงอย่างบ้าคลั่ง
พระเทพีทรงโกรธแค้นเทพีแห่งโชคชะตาว่า
"ทำไมเจ้าจึงมาเด็ดเส้นชะตาของเขาในวันนี้ด้วย...ทำไม..."
พระเทพีมองที่ใบหน้าของอะโดนิ
พระเทพีตั้งจิตอธิษฐานว่า"อะโดนิที่รักของข้า ข้าของให้เจ้าฟื้นจากความตาย ขอให้ดวงจิตวิญญาณและร่างของเจ้ากลายเป็นดอกไม้สีแดงดั่งเลือดที่ไหลออกจากกายของเจ้า เพื่อมิให้วิญญาณของเจ้าต้องจากข้าไปตลอดกาล"
จากนั้นร่างของอะโดนิก็กลายเป็นดอกไม้สีแดงชาด ที่ต่อมาเรียกกันว่า ดอกอะเนโมนิ หรือ ดอกอะโดนิ กลายเป็นดอกไม้อนุสรณ์ความรักแห่งเทพีอะโฟรไดทินับแต่นั้นมา...
เทพีอะโฟรไดทิ
ทรงเป็นเทพีแห่งความรัก
พระองค์ทรงทำหน้าที่พิทักษ์และประทานความสุขสมหวังในความรักของมนุษย์ชายหญิงได้อย่างดี
เลยมีตำนานถึงความเมตตาของพระเทพีที่ช่วยให้คู่รักที่ดูแล้วจะเป็นไปไม่ได้ให้้เป็นไปได้
อย่างคู่ของ พิคแมเลียนกับนางกัลละเธีย ซึ่งในตำนานเล่าว่า พิคแมเลียนเ็ป็นช่างปั้นฝีมือเยี่ยมคนหนึ่ง
แต่เขาก็ยังเป็นชายหนุ่้มที่หล่อเหลาไม่เบาเลยทีเดียว เป็นที่ชื่นชอบของสาวๆ
คงเพราะนิสัยของเขาที่เป็นศิลปินใจเย็นและสุขุม
แต่แปลกที่พิคแมเลียนกลับไ่ม่สนใจในสตรีนางใดเลยสักคน
ถึงเหล่านางทั้งหลายจะมาเสนอตัวก็ตามที เขาว่่าพวกนางไม่เหมาะสมกับเขา และเขายังไม่ถูกใจสตรีใด
เขามีสตรีในอุดมคติที่สูงเกินไปล่ะมั้ง
วันหนึ่งเขาลองปั้นรูปของสตรีงามนางหนึ่งขึ้นมา
รูปปั้นนี้เป็นรูปของนางในฝันของเขานั่นเอง
เขาถึงการอึ้งกับฝีมือของเขาที่ปั้นได้เหมือนจริง เขาหลงใหลในรูปปั้นรูปนี้มาก ถึงการเพ้อพูดจาเหมือนกับเขาเป็นบ้าไป
เขาจ้องมองใบหน้าที่สวยงามของรูปปั้น
ถึงเขารู้ทั้งรู้ว่ารูปปั้นนี้ไม่มีชีวิตและมิอาจจะมาพูดคุยหรือสบตาเขาได้
เรื่องนี้จึงร้อนไปถึงเทพีแห่งความรักอย่างเทพีอะโฟรไดทิ
พระองค์ทรงสงสารในพิคแมเลียนจึงประทานชีวิตให้รูปปั้นนั้นมีชีวิตขึ้นมา
พิคแมเลียนถึงกับยินดีที่ความฝันของเขาเป็นจริงขึ้นมาได้
พระเทพียังประทานชื่อให้แก่นางที่มาจากรูปปั้นว่า "กัลละเธีย"
และทั้งสองก็ครองรักกันอย่างมีความสุข
อีกคู่ต่อมาเป็นคู่นักวิ่งลมกรด
เขาว่าอย่างนั้นคือคู่้ของ ฮิปโปเมนีส กับ นางอัตตะลันตา
เขาว่านางอัตตะลันตามีความงามมากจนเป็นที่หมายปองของชายหนุ่มมากมาย
นางเลยประกาศว่า
"หากชายบุรุษใดสามารถวิ่้งแข่งชนะข้าได้ ชายบุรุษผู้นั้นจะเป็นสามีของนาง" แต่จนแล้วจนรอดก็มิได้มีชายบุรุษคนใดเอาชนะนางได้เลย แต่เมื่อชายหนุ่มคนหนึ่งนามว่า "ฮิปโปเมนิส" เขาวินวอนต่อเทพีแห่งความรัก พระเทพีรับทราบถึงความทุกข์ของชายหนุ่ม จึงมาปรากฏกายพร้อมประทานแอปเปิ้ลทองคำให้ 3 ผล
"เ้จ้าจงใช้แอปเปิ้ลทองคำนี้ให้เป็นประโยชน์" จากนั้นพระเทพีก็หายไปในท่ามกลางกลุ่มควันสีทอง
ฮิปโปเมนีสมาพร้อมกับความมั่นใจว่ายังมีเทพีอะโฟรไดทิอยู่ข้างตน ตนจึงลงแข่งกับนางอัตตะลันตา ผลออกมาว่าพอนางอัตตะลันตาจะวิ่งนำหน้าตน ฮิปโปเมนิสก็โยนแอปเปิ้ลทองคำนี้ลง นางอัตตะลันตาเห็นก็หยุดเก็บเลยเสียเวลาให้ ฮิปโปเมนีสนำหน้าไป ฮิปโปเมนีสชนะเข้าถึงเส้นชัยสำเร็จ นางอัตตะลันตาจึงยอมรับการแต่งงานเป็นภรรยาของฮิปโปเมนิส
"หากชายบุรุษใดสามารถวิ่้งแข่งชนะข้าได้ ชายบุรุษผู้นั้นจะเป็นสามีของนาง" แต่จนแล้วจนรอดก็มิได้มีชายบุรุษคนใดเอาชนะนางได้เลย แต่เมื่อชายหนุ่มคนหนึ่งนามว่า "ฮิปโปเมนิส" เขาวินวอนต่อเทพีแห่งความรัก พระเทพีรับทราบถึงความทุกข์ของชายหนุ่ม จึงมาปรากฏกายพร้อมประทานแอปเปิ้ลทองคำให้ 3 ผล
"เ้จ้าจงใช้แอปเปิ้ลทองคำนี้ให้เป็นประโยชน์" จากนั้นพระเทพีก็หายไปในท่ามกลางกลุ่มควันสีทอง
ฮิปโปเมนีสมาพร้อมกับความมั่นใจว่ายังมีเทพีอะโฟรไดทิอยู่ข้างตน ตนจึงลงแข่งกับนางอัตตะลันตา ผลออกมาว่าพอนางอัตตะลันตาจะวิ่งนำหน้าตน ฮิปโปเมนิสก็โยนแอปเปิ้ลทองคำนี้ลง นางอัตตะลันตาเห็นก็หยุดเก็บเลยเสียเวลาให้ ฮิปโปเมนีสนำหน้าไป ฮิปโปเมนีสชนะเข้าถึงเส้นชัยสำเร็จ นางอัตตะลันตาจึงยอมรับการแต่งงานเป็นภรรยาของฮิปโปเมนิส
คู่ต่อมานี้กลับเป็นการทำลายชื่อเสียงแห่งเทพีแห่งความรักเป็นอันมาก
คือ คู่ของเจ้าชายปารีสกับนางเฮเลน
ซึ่งตอนนั้นเจ้าชายปารีสทรงพักผ่อนในหมู่ไม้ในอุทยาน
บังเอิญลูกแอปเปิ้ลทองคำดันตกลงมาต้องพระองค์ พระองค์หยิบขึ้นดู และแล้ว
"ท่านได้โปรดเถิด..."
เจ้าชายปารีสไม่อยากจะเชื่อสายตาตนเอง ที่มีพระเทพีทั้ง 3 มาปรากฏต่อหน้า คือ เทพีเฮร่า เทพีอธีน่า และ้เทพีอโฟรไดทิ
"ท่านได้โปรด ช่วยตัดสินหน่อยเถิดว่า1ในพระเทพี พระองค์ใดงามที่สุด" เทพีเฮร่ากล่าว
"ทำไมล่ะพระแม่ทั้ง3 จึงมาให้ข้าผู้เป็นมนุษย์ต่ำด้อยอย่างข้า เป็นผู้ตัดสิน"
"ก็แอปเปิ้ลทองคำนั้นอยู่ที่ท่าน" เทพีอธีน่ากล่าว
"แอปเปิ้ลทองคำผลนี้มีเจ้าของได้เพียงผู้เดียว และผู้ที่เหมาะสมจะเป็นเจ้าของต้องมีความงามเป็นเลิศ" เทพีอะโฟรไดทิกล่าว
"ท่านได้โปรดเถิด..."
เจ้าชายปารีสไม่อยากจะเชื่อสายตาตนเอง ที่มีพระเทพีทั้ง 3 มาปรากฏต่อหน้า คือ เทพีเฮร่า เทพีอธีน่า และ้เทพีอโฟรไดทิ
"ท่านได้โปรด ช่วยตัดสินหน่อยเถิดว่า1ในพระเทพี พระองค์ใดงามที่สุด" เทพีเฮร่ากล่าว
"ทำไมล่ะพระแม่ทั้ง3 จึงมาให้ข้าผู้เป็นมนุษย์ต่ำด้อยอย่างข้า เป็นผู้ตัดสิน"
"ก็แอปเปิ้ลทองคำนั้นอยู่ที่ท่าน" เทพีอธีน่ากล่าว
"แอปเปิ้ลทองคำผลนี้มีเจ้าของได้เพียงผู้เดียว และผู้ที่เหมาะสมจะเป็นเจ้าของต้องมีความงามเป็นเลิศ" เทพีอะโฟรไดทิกล่าว
"เจ้าชายปารีสแห่งทรอย หากท่านเลือกข้า ราชินีเฮร่าแห่งสรวงสวรรค์ข้าจะตอบแทนท่านด้วยความเจริญรุ่งเรืองแห่งอาณาจักรของพระองค์"
"อะไำรนี่ ไม่..ไม่..เจ้าชายหากพระองค์เลือกข้า อธีน่า เทพีแห่งสติปัญญาและสงคราม ข้าจะประทานชัยชนะแก่อาณาจักรของพระองค์จะไม่มีศัตรูใดมาทำลายอาณาจักรของพระองค์ได้ และเจ้าชายเองจะมีชัยเหนืออริราชศัตรูและไพรี"
"เจ้าชาย...ปารีส...หากพระองค์เลือกข้า อะโฟรไดทิ เทพีแห่งความรักและความงาม ข้าจะประทานพระชายาผู้งดงามที่สุดในปฐพีแก่พระองค์..."
เจ้าชายปารีสเหมือนตกในมนต์ พระองค์ยื่นแอปเปิ้ลทองคำอันแวววาวแก่เทพีอะโฟรไดทิ ผลสรุปว่าเ้จ้าชายตัดสินให้เทพีอะโฟรไดทิเป็นเจ้าของแอปเปิ้ลทองคำผลนี้ แต่สิ่งที่พระเทพีประทานให้คือ นางเฮเลนที่มีความงามเป็นเลิศแต่นางกลับมาพร้อมกับความหายนะมาสู่ทรอยอันเกรียงไกร เพราะเป็นชนวนสงครามแห่งกรีกกับทรอย จึงทำให้อาณาจักรทรอยนี้จบสิ้นปวสาน
"อะไำรนี่ ไม่..ไม่..เจ้าชายหากพระองค์เลือกข้า อธีน่า เทพีแห่งสติปัญญาและสงคราม ข้าจะประทานชัยชนะแก่อาณาจักรของพระองค์จะไม่มีศัตรูใดมาทำลายอาณาจักรของพระองค์ได้ และเจ้าชายเองจะมีชัยเหนืออริราชศัตรูและไพรี"
"เจ้าชาย...ปารีส...หากพระองค์เลือกข้า อะโฟรไดทิ เทพีแห่งความรักและความงาม ข้าจะประทานพระชายาผู้งดงามที่สุดในปฐพีแก่พระองค์..."
เจ้าชายปารีสเหมือนตกในมนต์ พระองค์ยื่นแอปเปิ้ลทองคำอันแวววาวแก่เทพีอะโฟรไดทิ ผลสรุปว่าเ้จ้าชายตัดสินให้เทพีอะโฟรไดทิเป็นเจ้าของแอปเปิ้ลทองคำผลนี้ แต่สิ่งที่พระเทพีประทานให้คือ นางเฮเลนที่มีความงามเป็นเลิศแต่นางกลับมาพร้อมกับความหายนะมาสู่ทรอยอันเกรียงไกร เพราะเป็นชนวนสงครามแห่งกรีกกับทรอย จึงทำให้อาณาจักรทรอยนี้จบสิ้นปวสาน
เทพีอะโฟรไดทิยังได้รับการยกย่องเป็นเทพีแห่งการประทานบุตร
เพราะชาวกรีก-โรมันมีความเชื่อว่าหากนกกระสามาทำรังบนหลังคาบ้าน
ที่บ้านนั้นจะให้กำเนิดทารกน้อย ซึ่งเขาเชื่อว่านกกระสาเป็นนกโปรดของเทพีอะโฟรไดทิ
ซึ่งแสดงว่าพระเทพีประทานบุตรมาให้ และความเชื่อนี้ยังแพร่ไปในยุโรป มักมีภาพวาดนกกระสาที่คาบถุงที่มีเด็กทารกอยู่ข้างใน
แสดงถึงความเชื่อเรื่องนกกระสามาประทานบุตรให้ได้อย่างชัดเจน
และเชื่อว่าหากนกกระสาบินวนรอบหลังคาบ้าน แสดงว่าบ้านหลังนั้นกำลังมีเด็กเกิด
ซึ่งหากนกกระสามาปรากฏเช่นนี้เขาว่าเป็นมงคล รวมถึงหากนกกระสามาทำรังบนหลังคาจะนำโชคลาภความเป็นมงคลมาให้...
ใครอยากโชคดีก็จับนกกระสาตามท้องนามาทำรังบนหลังคาบ้านได้นะเผื่อจะให้เลขเด็ด...
ใครอยากโชคดีก็จับนกกระสาตามท้องนามาทำรังบนหลังคาบ้านได้นะเผื่อจะให้เลขเด็ด...
การบังเกิดของเทพีอโฟรไทดินั้นคงเกิดจากความปรารถนาในความรักของหนุ่มสาวที่ต้องการที่พึ่งทางใจ
จึงมีพระเทพีพระองค์นี้ขึ้นมา เพื่อเป็นตัวแทนแห่้งความรัก
และอาจเป็นไปได้ว่าเทพเจ้าบางพระองค์อาจมิได้เป็นเทพกรีกแท้ๆ
ซึ่งเป็นมาจากอิทธิพลของเพื่อนบ้านหรือไม่ก็ชนชาติอื่นที่มาอาศัยในกรีกอย่างที่กล่าวไปแล้ว..
และยังเป็นไปได้ว่าชาวกรีกหลงในกิเลสเลยแสดงออกมาทางเทวตำนานโดยหวังให้ลูกหลานดูไว้เป็นเยี่ยงแต่อย่างเอาเป็นอย่าง
ให้รู้ว่าเทพเจ้าก็มีความอยากใคร่ได้อย่างมนุษย์เราธรรมดา
จึงทำให้ชาวกรีกรู้สึกว่าเทพเจ้าก็มิได้อยู่ไกลจากพวกตนเท่าไรนั้นเอง...
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น